ภาพรวม
ผู้ใช้เข้ามายังเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของคุณผ่านแหล่งที่มามากมาย เช่น แคมเปญโฆษณา เครื่องมือค้นหา และโซเชียลเน็ตเวิร์ก บทความนี้จะอธิบายวิธีที่ Analytics รวบรวม ประมวลผล และรายงานข้อมูลเกี่ยวกับแคมเปญและแหล่งที่มาของการเข้าชม
การทำความเข้าใจเรื่องแคมเปญและแหล่งที่มาของการเข้าชม
ใน Analytics เราจะเรียกบรรดาแคมเปญโฆษณา เครื่องมือค้นหา โซเชียลเน็ตเวิร์ก และแหล่งที่มาอื่นๆ ที่ส่งผู้ใช้มายังพร็อพเพอร์ตี้ของคุณว่า "แคมเปญและแหล่งที่มาของการเข้าชม" กระบวนการส่งข้อมูลแคมเปญและแหล่งที่มาของการเข้าชมมายัง Analytics แล้วป้อนในรายงานมีขั้นตอนดังนี้
- การรวบรวม - ค่าจะส่งมายัง Google Analytics ในช่องแคมเปญและแหล่งที่มาของการเข้าชมโดยใช้ SDK หรือโค้ดติดตาม
- การประมวลผล - ค่าที่รวบรวมมาจะใช้เพื่อป้อนในมิติข้อมูลของรายงานขั้นสุดท้ายตามตรรกะที่ใช้ในการประมวลผล
- การรายงาน - มิติข้อมูลและเมตริกสำหรับแคมเปญและแหล่งที่มาของการเข้าชมพร้อมให้ใช้งานในเว็บอินเทอร์เฟซและ Reporting API
คุณปรับแต่งวิธีการรวบรวม ประมวลผล และรายงานได้
การรวบรวม
Analytics SDK และโค้ดติดตามจะใช้ช่องข้อมูลเหล่านี้ในการส่งข้อมูลแคมเปญและแหล่งที่มาของการเข้าชม
ชื่อช่อง | ตัวแปรที่จะตั้งค่า | พารามิเตอร์โปรโตคอล | ค่าตัวอย่าง | คำอธิบายของช่อง |
---|---|---|---|---|
รหัสแคมเปญ | campaign.id |
&ci |
abc123 | กําหนดรหัสแคมเปญที่ไม่ซ้ำกันซึ่งใช้ขยายขอบเขตข้อมูลค่าใช้จ่ายในภายหลังได้ |
แหล่งที่มาของแคมเปญ | campaign.source |
&cs |
email_promo |
ตั้งค่ามิติข้อมูลแหล่งที่มาในรายงาน |
สื่อของแคมเปญ | campaign.medium |
&cm |
อีเมล |
ตั้งค่ามิติข้อมูลสื่อในรายงาน |
ชื่อแคมเปญ | campaign.name |
&cn |
january_boots_promo |
ตั้งค่ามิติข้อมูลชื่อแคมเปญในรายงาน |
เนื้อหาของแคมเปญ | campaign.content |
&cc |
email_variation1 |
ตั้งค่ามิติข้อมูลเนื้อหาในรายงาน |
คำของแคมเปญ | campaign.term |
&ck |
winter%20boots |
ตั้งค่ามิติข้อมูลคำค้นหาในรายงาน |
ตำแหน่งเอกสาร | page_location |
&dl |
http://store.example.com/boots?utm_source=email_promo&utm_medium=email&utm_campaign=january_promo &utm_content=copy_variation1 |
ตั้งค่ามิติข้อมูลเมื่อมีพารามิเตอร์แคมเปญที่กำหนดเอง (utm) ฝังอยู่ |
URL ที่มาของเอกสาร | page_referrer |
&dr |
http://blog.blogger.com/boots |
อธิบายแหล่งการอ้างอิงและอาจตั้งค่ามิติข้อมูลเมื่อไม่มีการตั้งค่าช่องแคมเปญหรือแหล่งที่มาของการเข้าชมอื่นๆ |
แต่ละเซสชันจะเชื่อมโยงกับแคมเปญหรือแหล่งที่มาของการเข้าชมเดียวเท่านั้น และเซสชันใหม่จะไม่เริ่มต้นเมื่อ Google Analytics 4 พบแคมเปญหรือแหล่งที่มาของการเข้าชมใหม่ เมื่อมีการส่งค่าแคมเปญหรือแหล่งที่มาของการเข้าชมใหม่ไปยัง Analytics ในขั้นรวบรวมข้อมูลขณะที่เซสชันปัจจุบันยังดำเนินอยู่ ค่าเหล่านั้นจะเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ที่ได้รับการรวบรวมและข้อมูลที่ได้จะใช้สำหรับการระบุแหล่งที่มาจากเหตุการณ์ แต่ค่าแคมเปญและแหล่งที่มาของการเข้าชมจะไม่เชื่อมโยงกับเซสชันปัจจุบันของผู้ใช้
การประมวลผล
ระหว่างขั้นตอนประมวลผล ค่าในช่องแคมเปญและแหล่งที่มาของการเข้าชมจะได้รับการสรุปเป็นค่ามิติข้อมูลและระบุแหล่งที่มาให้กับเซสชันต่างๆ
วิธีการต่อไปนี้ใช้กับการประมวลผลที่ใช้ค่าพารามิเตอร์ utm_
(เช่น ดิสเพลย์ โซเชียล อีเมล การค้นหาที่เสียค่าใช้จ่าย เป็นต้น)
- ตามลำดับแหล่งที่มา - การเข้าชมโดยตรงที่เกิดขึ้นหลังการเข้าชมจาก URL ที่มาจะไม่มีผลลบล้าง URL ที่มาซึ่งมีอยู่เดิม
การประมวลผลแคมเปญที่กำหนดเอง
เซสชันจะได้รับการประมวลผลเป็นแคมเปญที่กำหนดเองเมื่อมีการฝังพารามิเตอร์แคมเปญที่กําหนดเองในช่องตําแหน่งเอกสาร เมื่อแคมเปญที่กำหนดเองได้รับการประมวลผล ค่าของพารามิเตอร์แคมเปญที่กำหนดเองจะจับคู่กับมิติข้อมูลในรายงานโดยตรง
ตัวอย่างเช่น ค่าในช่องตำแหน่งเอกสารต่อไปนี้
&dl=http://store.example.com/boots ?utm_source=promo_email &utm_medium=email &utm_campaign=january_promo &utm_id=123abc &utm_content=copy_variation1
จะได้รับการประมวลผลเป็นค่ามิติข้อมูลสุดท้ายดังนี้
source=promo_email medium=email campaign=january_promo id=123abc content=copy_variation1
การประมวลผลการอ้างอิงเครื่องมือค้นหาที่เสียค่าใช้จ่าย
เซสชันจะได้รับการประมวลผลเป็นการอ้างอิงการค้นหาที่เสียค่าใช้จ่ายเมื่อมีการใช้พารามิเตอร์แคมเปญที่กำหนดเองหรือรหัสการคลิกของ Google Ads / Google Marketing Platform ใน URL ปลายทางของโฆษณา และส่งให้กับ Analytics ในช่องตำแหน่งเอกสาร
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธียืนยันว่าการติดแท็กอัตโนมัติของ Google Ads ทำงานอยู่
หากไม่มีการใช้พารามิเตอร์แคมเปญที่กำหนดเองหรือรหัสการคลิก เซสชันอาจได้รับการประมวลผลเป็นการค้นหาทั่วไปแทน
การประมวลผลการอ้างอิงเครื่องมือค้นหาทั่วไป
ข้อมูลอ้างอิงเครื่องมือค้นหาจะได้รับการประมวลผลโดยการเปรียบเทียบชื่อโฮสต์และพารามิเตอร์การค้นหาของช่อง URL ที่มาของเอกสารกับรายชื่อเครื่องมือค้นหาซึ่งเป็นที่รู้จักและพารามิเตอร์การค้นหาของเครื่องมือค้นหานั้นๆ ระบบจะนำเครื่องมือค้นหาซึ่งเป็นที่รู้จักรายการแรกที่ตรงกับทั้งชื่อโฮสต์และพารามิเตอร์การค้นหาของค่า URL ที่มาของเอกสารไปใช้ตั้งค่ามิติข้อมูลของรายงาน
โปรดทราบว่าการค้นหาใน Google ส่วนใหญ่ทำผ่าน HTTPS ซึ่งทำให้ระบบตั้งค่ามิติข้อมูลคีย์เวิร์ดเป็น (ไม่ได้ระบุ)
โดยอัตโนมัติ
การประมวลผลการเข้าชมโดยตรง
เซสชันจะได้รับการประมวลผลเป็นการเข้าชมโดยตรงเมื่อไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับแหล่งการอ้างอิง หรือเมื่อระบบได้รับการกำหนดค่าให้ละเว้นแหล่งการอ้างอิงหรือข้อความค้นหา ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการยกเว้น URL ที่มา
การรายงาน
หลังจากประมวลผล มิติข้อมูลและเมตริกแคมเปญและแหล่งที่มาของการเข้าชมต่อไปนี้จะสามารถใช้ได้ในรายงาน
มิติข้อมูล
เว็บอินเทอร์เฟซ | ขอบเขต | Core Reporting API | คำอธิบาย |
---|---|---|---|
แหล่งที่มา |
ผู้ใช้ เซสชัน เหตุการณ์ |
firstUserSource sessionSource source |
แหล่งที่มาของการอ้างอิงไปยังพร็อพเพอร์ตี้ของคุณ |
สื่อ |
ผู้ใช้ เซสชัน เหตุการณ์ |
firstUserMedium sessionMedium medium |
ประเภทของการอ้างอิงไปยังพร็อพเพอร์ตี้ของคุณ (เช่น email , cpc เป็นต้น) |
รหัสแคมเปญ |
ผู้ใช้ เซสชัน เหตุการณ์ |
firstUserCampaignId sessionCampaignId campaignId |
|
ชื่อแคมเปญ |
ผู้ใช้ เซสชัน เหตุการณ์ |
firstUserCampaignName sessionCampaignName campaignName |
ชื่อของแคมเปญทางการตลาดที่ส่งผู้ใช้ไปยังพร็อพเพอร์ตี้ของคุณ |
ในกรณีของแคมเปญ Google Ads หรือ Google Marketing Platform ที่เสียค่าใช้จ่ายจะมีช่องเพิ่มเติมที่ป้อนข้อมูลด้วยตนเองได้โดยการนําเข้าข้อมูลค่าใช้จ่าย
ตัวเลือกการกำหนดค่าขั้นสูง
ตัวเลือกการกำหนดค่าขั้นสูงต่อไปนี้ตั้งค่าได้ที่ระดับพร็อพเพอร์ตี้
การตั้งค่าการระบุแหล่งที่มาและกรอบเวลา Conversion ของแคมเปญ
การระบุแหล่งที่มาคือการดำเนินการในการกำหนดเครดิตสำหรับ Conversion ให้กับโฆษณา การคลิก และปัจจัยต่างๆ ตามเส้นทางของผู้ใช้ในการทำ Conversion จนเสร็จสมบูรณ์
กรอบเวลา Conversion ของแคมเปญจะเป็นสิ่งกำหนดระยะเวลาย้อนกลับที่ทัชพอยต์มีสิทธิ์ได้รับเครดิตการระบุแหล่งที่มา
ดูวิธีกําหนดการตั้งค่าการระบุแหล่งที่มาและกรอบเวลา Conversion ของแคมเปญ
การยกเว้น URL ที่มา
คุณยกเว้นแหล่งการอ้างอิงบางแห่งในรายงานได้โดยการตั้งค่าการยกเว้นที่ระดับพร็อพเพอร์ตี้
ตอนนี้ Google Analytics 4 ป้องกันการอ้างอิงตัวเองโดยอัตโนมัติแล้ว คุณจึงไม่ต้องป้อนโดเมนเมื่อหน้าอ้างอิงตรงกับโดเมนของหน้าปัจจุบัน หรือเมื่อคุณกําหนดค่าพร็อพเพอร์ตี้สําหรับการวัดผลแบบข้ามโดเมนอีกต่อไป
อย่างไรก็ตาม คุณยังคงต้องกําหนดค่าการยกเว้นการอ้างอิงสําหรับบริการหรือเกตเวย์ของบุคคลที่สามที่คุณใช้ในเว็บไซต์ ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการระบุการอ้างอิงที่ไม่ต้องการ